รุ่นไหนดี 5 อันดับ หูฟังฟูล ไซส์ รุ่นไหนดี ที่นิยม คลิกเลย อัพเดทล่าสุดปี 2567

หูฟังไร้สาย Sennheiser Accentum Wireless หูฟังซีรีส์ใหม่จากทาง Sennheiser ในคราวนี้ตัวหูฟังจะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพกพามาก ๆ มีขนาดที่กะทัดรัด สวมใส่สบาย ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทช่วยให้คุณดื่มด่ําไปกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่ และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้งานได้ข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว!!! ในส่วนของคุณภาพเสียง Sennheiser Accentum นั้นได้วางอยู่ในระดับ Mid-Range ซึ่งมีการจูนเสียงมาในโทนอุ่นเหมือนกันแต่รายละเอียดจะแตกต่างจากรุ่นพี่ Momentum 4 พอสมควรครับ โดยในย่านเสียงต่ํานั้นจะเป็นเบสที่มวลหนาปะทะแน่นปานกลางตอบสนองกับเพลงที่สปีดช้าไปจนถึงปานกลาง เสียงกลางนั้นจะมีความอบอุ่นและเนื้อเสียงหนากว่า Momentum 4 อย่างเห็นได้ชัด แต่จะไม่ได้เนียนสะอาดเท่ากับรุ่นพี่เค้าครับ เสียงร้องของ Accentum จะอยู่กึ่งกลางไม่ถอยไปด้านหลังมากนักอิมเมจเสียงพอดีตัวไม่ทําให้อึดอัด เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดีตามมาตรฐานของ Sennheiser ย่านเสียงสูงมีจะไม่ได้บูสต์มาจนฟังแล้วคัลเลอร์เกินจริงแต่จะดูซอฟท์ทอดตัวใช้ได้ไม่กุดด้วน วางตําแหน่งชิ้นดนตรีได้ดีไม่ทับซ้อนกันจะเหมาะกับการฟังแบบผ่อนคลายไม่รุกเร้าหรือจัดจ้านมากนักครับ โดยรวมแล้วเป็นหูฟังในสไตล์ของ Sennheiser มีกลิ่นอายความเป็น Momentum 4 ที่ถูกย่อส่วนลงมาเป็น Accentum ที่ทําได้คุ้มค่าตัวอย่างแน่นอนครับ สรุป 1. เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 37 มม. ที่สามารถให้เสียงต่างๆได้ยอดเยี่ยมโดยยังคงไว้ด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ Sennheiser 2. ใส่สบายตลอดทั้งวัน ด้วยดีไซน์การออกแบบให้มีน้ําหนักเบาและแถบคาดศีรษะที่สามารถปรับให้เข้ากับรูปร่างของหัวของเราครับ 3. ตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิดด้วยฟังก์ชัน Hybrid ANC ช่วยให้คุณดื่มด่ําไปกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่อย่างไม่มีอะไรมารบกวน 4. ปรับแต่งเสียงได้ในแบบที่เป็นตัวคุณ ด้วย Sound Personalization ที่จะปรับเสียงให้เข้าหูของเราโดยอัตโนมัติหรือถ้าไม่ถูกใจก็ยังสามารถแต่งเพิ่มเติมได้ภายในแอป Sennheiser Smart Control ได้เลยครับ 5. ใช้งานได้ตลอดวัน ด้วยแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง และยังรองรับ Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมงทีเดียว Sennheiser

***สําหรับสินค้าหูฟัง Grado ทุกรุ่นเป็นงานประกอบด้วยมือ (Hand Made) งานแต่ละชิ้นจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของงานแฮนด์เมดครับ แต่คุณภาพเสียงได้มาตรฐานเท่ากันแน่นอน สามารถตัดสินใจจากคําแนะนําได้เลยครับ*** Leading the way for our 4th gen X Drivers, the redesigned RS1x combines maple, hemp, and cocobolo wood into a vivacious and elegant headphone. The Sound of Wood For the first time, three different wood species are working together in a Grado headphone. The housing is made of a maple sleeve, hemp core, and cocobolo outer ring. We build with wood for its warm and embracing tonal abilities, but finding the right balance of three separate woods is no simple task. The reward though is an RS1x that opens Grado to a new level of sound. Signature Sound Pulling everything we can from the new 50mm X Driver, our signature sound is brought to new heights when combined with maple, hemp, and cocobolo. Maple takes care of most of the work, hemp smooths out top and low ends, while cocobolo adds that extra punch. Together the sound the woods produce, when combined with our special processes, are full-bodied, dynamic, and truly defined. X Series Drivers The RS1x is the first headphone to be built with the larger 50mm X Drivers. Specifically tuned for the tri-wood RS1x, this new speaker design features a more powerful magnetic circuit, a voice coil with decreased effective mass, and a reconfigured diaphragm. Reengineering these components for our 50mm drivers improve efficiency, reduces distortion, and preserves the harmonic integrity of your music. New Cable & Headbands Along with the speakers, the cables and headband have been redesigned for the RS1x. Housed in a more durable exterior, the now super annealed copper 8-conductor cable reveals even more of your music with improved purity. The new black leather headband features a white-stitched accent. Hand-Built in Brooklyn Our first wooden headphones were built in the middle of the night back in 1994 by John Grado. Wood has been a staple on our workbench ever since. Each RS1x headphone is hand-built by our team in Brooklyn - these headphones go from workbench to workbench until they’re ready for your ears. We started building on a kitchen table in 1953, and every experience since then has led to the RS1x. Grado(กราโด้)

***สําหรับสินค้าหูฟัง Grado ทุกรุ่นเป็นงานประกอบด้วยมือ (Hand Made) งานแต่ละชิ้นจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของงานแฮนด์เมดครับ แต่คุณภาพเสียงได้มาตรฐานเท่ากันแน่นอน สามารถตัดสินใจจากคําแนะนําได้เลยครับ*** Maple, Meet Hemp A family favorite, the RS2x has been completely redesigned to bring out the full potential of its maple and hemp wood. The housing’s sleeve and ring are made from maple, while a hemp core keeps everything together. We build with wood for its warm and embracing tonal abilities, and the RS2x is an exceptional evolution to the RS2 line. Signature Sound Discovering new pieces in songs heard hundreds of times is what we’re here for. The driver and housing working in tandem react to sound vibrations and virtually eliminate transient distortions. With harmonic colors and a world renowned mid-range, the RS2x immediately draws you in. The sound the woods produce, when combined with our special processes, are full-bodied with a rich vocality. X Series Drivers 4th gen X Drivers are here. Specifically tuned for the RS2x wood housing, this new speaker design features a more powerful magnetic circuit, a voice coil with decreased effective mass, and a reconfigured diaphragm. Reengineering these components for our 44mm drivers improve efficiency, reduces distortion, and preserves the harmonic integrity of your music. New Cable & Headbands Along with the speakers, the cables and headband have been redesigned for the RS2x. Housed in a more durable exterior, the now super annealed copper 8-conductor cable reveals even more of your music with improved purity. The new black leather headband features a white-stitched accent. Hand-Built in Brooklyn Our first wooden headphones were built in the middle of the night back in 1994 by John Grado. Wood has been a staple on our workbench ever since. Each RS2x headphone is hand-built by our team in Brooklyn - these headphones go from workbench to workbench until they’re ready for your ears. We started building on a kitchen table in 1953, and every experience since then has led to the RS2x. Grado(กราโด้)

***สําหรับสินค้า Headphone Alessandro นั้นทุกรุ่นเป็นงานประกอบด้วยมือคุณภาพอาจไม่เนี้ยบ 100% แต่ละกล่องอาจมีตําหนิในแต่ละจุดต่างกันไป โปรดพิจารณาปัจจัยนี้ก่อนสั่งซื้อ*** หูฟังจากทาง Alessandro ในรุ่น MS1X เป็นหูฟังซีรีย์ล่าสุดของทางแบรนด์ครับ โดยในรุ่นนี้จะมีการออกแบบใหม่ทั้งในส่วนของไดร์เวอร์, ก้านคาดหัว, สายหูฟัง การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้น Alessandro MS1X เป็นหูฟังออนเอียร์ชนิด open back เมื่อสวมใส่ตัวฟองน้ําจะวางอยู่บนใบหู ก้านคาดหัวเสริมด้วยฟองน้ํา หุ้มด้วยหนังเทียม ทําให้ใส่สบาย กระจายน้ําหนักได้ดี ในส่วนของสายหูฟังนั้นจะออกแบบใหม่โดยจะหุ้มด้วยไนลอน ซึ่งจะมีความแข็งแรง สายไม่พันกัน ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานครับ อุปกรณ์ในกล่อง - Alessandro MS1X - อแดปเตอร์แปลง 3.5 - 6.3 มม. การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้น หูฟัง Alessandro MS1X จะออกแบบมาให้สามารถเสียบใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆได้ทันทีผ่านทางแจ๊ค 3.5 มม. หรือจะใช้อแดปเตอร์เพื่อแปลงเป็นแจ๊ค 6.3 มม. ก็ได้ครับ ภายในของ Alessandro MS1X จะใช้ไดร์เวอร์ชนิดไดนามิคที่ตัว voice coil ใช้ลวดทองแดงปราศจากออกซิเจนชนิด ultra-high purity, long crystal (UHPLC) ร่วมกับแม่เหล็ก neodymium ซึ่งช่วยให้ตอบสนองความถี่ได้ดี ให้เสียงเบสที่กระชับ เก็บตัวได้รวดเร็ว ในส่วนของสเปคสายหูฟัง ในรุ่น MS1X จะใช้สายหูฟังแบบมาตรฐาน (Standard Copper) มีจะมีตัวนํา 4 เส้นครับ โดยหูฟังจากทาง Alessandro ทุกรุ่นจะผลิตโดยโรงงานของ Grado จึงมีดีไซน์ที่คล้ายคลึงกันนั่นเองครับ คุณภาพเสียง MS1x ในรอบนี้มีการปรับโฉมน้ําเสียงใหม่แตกต่างจากในรุ่นเดิมอยู่พอตัวเลยทีเดียวครับ โดยในย่านเสียงต่ํานั้นจะเป็นเบสที่กระชับเก็บตัวได้ไวขึ้นโดยที่เนื้อเบสจะมีความนุ่มสมูทอยู่ครับ . ในย่านเสียงกลางนั้นจะมีเสียงที่คมชัดมากขึ้นโดยเฉพาะเสียงเครื่องสายที่เปิดเผยกว่าเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งความหวานละมุนละไมตามเดิมครับ . เสียงสูงของ MS1x นี้ยังทอดตัวได้ไกลขึ้นจากในรุ่นก่อนและเพิ่มประกายเสียงที่ดูสว่างสดใสช่วยให้บรรยากาศโดยรวมนั้นฟังเพลงได้หลากหลายมากขึ้นตามไปด้วยครับ สรุปเกี่ยวกับหูฟัง Alessandro MS1X โดยรวมแล้วหูฟัง Alessandro MS1X เป็นหูฟังรุ่นเบสิคที่ให้รายละเอียดเสียงที่คุ้มเกินราคา ให้รายละเอียดเสียงกลางที่หวาน พร้อมเบสที่กระชับ และแหลมที่ทอดตัวได้ไกล ออกแบบใหม่ให้ใส่สบายขึ้น และสายหูฟังยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วยครับ Transducer Type - DynamicOperating Principle - Open Air Frequency Response - 10-22 K Hz SPL - ImV100 Nominal Impedance - 38 ohms Driver Match - db0.1 Features - Vented diaphragm - Non-resonant air chamber - UHPLC voice coil wire - Standard copper connecting cord Alessandro(อเล็กซานโดร)

หูฟังจากทาง B&W ในรุ่น PX7 S2 เป็นหูฟังไร้สาย ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Noise Cancellation โดยในรุ่นเป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้า รองรับ CODEC aptX Adaptive และยังสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้นหูฟัง B&W PX7 S2 เป็นหูฟัง full size ชนิดไร้สาย โดยเมื่อสวมใส่แล้วจะครอบไปทั้งใบหู ช่วยให้ใส่ได้นานไม่เจ็บใบหู ในส่วนของ earcup นั้นจะใช้เป็นเมมโมรี่โฟมเกรดพรีเมียมที่มีความหนานุ่มสวมใส่สบาย ตัวก้านจะใช้วัสดุเป็นโลหะ มีความแข็งแรงแต่มีน้ําหนักเบาโดยตัวหูฟังจะมีน้ําหนักเพียง 307 กรัมเท่านั้น โดยจะมีปุ่มควบคุมต่างๆอยู่บริเวณ earcup ทั้งสองข้างของตัวหูฟังครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - B&W PX7 S2 - เคสสําหรับพกพา - สาย USB-C - 3.5mm - สาย USB-C - USB-C - คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง B&W PX7 S2 จะใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 รองรับ CODEC SBC, AAC, aptX, aptX HD และ aptX Adaptive โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนอกจากนี้ยังรองรับ Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้งานได้ถึง 7 ชั่วโมง ภายในของหูฟัง B&W PX7 S2 จะใช้ไดรเวอร์ dynamic ขนาด 40mm ที่มาพร้อมกับไดอะแฟรมแบบ Bio Cellulose ที่สามารถตอบสนองต่อความถี่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้เสียงครอบคลุมทุกย่านเสียง และตัวหูฟังยังมาพร้อมกับไมโครโฟนไว้สําหรับการสนทนาอีกด้วยครับ จุดเด่นของหูฟัง B&W PX7 S2 ก็คือฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Hybrid Noise Cancellation ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Ambient Pass-Through สําหรับรับเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างใช้งานทําให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบตัวโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออก นอกจากนี้ตัวหูฟัง B&W PX7 S2 ยังรองรับการปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้ผ่านแอพ Bowers & Wilkins Music ได้เลยครับ คุณภาพเสียง ในส่วนของเรื่องเสียงนั้น B&W PX7 S2 เป็นหูฟังที่ให้เสียงฉบับของ B&W ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยละครับ โดยในรุ่นนี้นั้นจะให้เสียงกลางที่สมูท ลื่นไหล เสียงร้องที่ขยับขึ้นมาข้างหน้าเล็กน้อย ให้รายละเอียดของเสียงร้องได้เป็นอย่างดี เสียงเบสของรุ่นนี้นั้นจะมีมวลปานกลาง เป็นลูกที่มีความกลม เนื้อเสียงออกไปทางโทนนุ่ม ใครที่ชอบฟังแนว vocal jazz, R&B หรือว่า pop เบาๆหูฟังรุ่นนี้ถือว่าเข้าทางเลยล่ะครับ สรุปเกี่ยวกับหูฟัง B&W PX7 S2 โดยรวมแล้วหูฟัง B&W PX7 S2 เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม สวมใส่สบาย มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Hybrid Noise Cancellationและฟังก์ชัน Ambient Pass-Through สําหรับรับเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างใช้งาน นอกจากนี้ยังมีระยะเวลาการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงอีกด้วย B&W(บีแอนด์ดับบลิว)