Evara 0
Evara 0

Line @Little-Shop

Happy Mother's Day. Big Sale Up to 40%

Evara 0
Evara 0
Our location
Log In / Sign Up
(+66) - 83742 - 24xx
Home บล๊อก หูฟังเกม

9 หูฟังเกม รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567

By Blogger Sep 23 2024
พบกับส่วนลด โปรโมชั่น ราคาถูก มีให้เลือกหลากหลาย - โปรส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง จัดเต็มกับโปรโมชั่นมากมาย พร้อมส่วนลดแบบจุกๆ ลดพิเศษสูงสุดมากถึง 70% พลาดไม่ได้ ต้องร้านแนะนำของเราเท่านั้น
วันนี้ถ้าหากท่านสนใจ ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ หูฟังเกม  สินค้าออนไลน์  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง หูฟังเกม  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง ของพรีเมี่ยม ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากหูฟังเกม มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง หูฟังเกม และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา หูฟังเกม วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ หูฟังเกมยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

หากถามถึงระบบเสียงของหูฟังที่ครองใจสายเกมเมอร์ทั้งหลายแล้ว ระบบเสียงเซอร์ราวด์นั้นมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะระบบเสียงเซอร์ราวด์ (Surround) จะให้เสียงที่ละเอียดและคมชัดกว่าระบบเสียงแบบ Stereo ทั่วไปที่เสียงจะออกมาเพียง 2 ทิศทาง (ซ้ายและขวา) แต่ระบบเซอร์ราวด์สามารถทำให้ได้ยินเสียงจากทั้งทางด้านซ้าย ขวา หน้า และหลัง แบบรอบทิศ 360 องศา โดยการจำลองเสียงของระบบเซอร์ราวด์แท้ ให้คุณรู้สึกถึงความสมจริงของเสียงที่ออกมายิ่งขึ้น จะใช้เล่นเกม PS3, PS4 หรือดูภาพยนตร์ก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้ไปอยู่ในที่แห่งนั้นจริง ๆ ดังนั้น หูฟังเซอร์ราวด์จึงถูกนำมาใช้กับกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่เน้นการรับฟังเสียงแบบรอบทิศ 360 องศา อย่างการเล่นเกมหรือดูหนังเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมการต่อสู้แนว FPS เป็นต้น


ปัจจุบันผู้นำตลาดด้านการผลิตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์เกมอย่าง Sony, Kinstone Tecnology, Steelsesies, และ Razer Nabu ก็ได้พัฒนาหูฟังที่มีฟังก์ชันต่าง ๆ ออกมากมาย ครั้งนี้เพื่อเอาใจสายเกมเมอร์ที่ชื่นชอบระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์ เราได้นำเคล็ดลับการเลือกหูฟังดี ๆ และยังได้ทำการจัดอันดับหูฟังเกมมิ่งที่เป็นที่นิยมมาให้คุณได้อ่านกันอีกด้วย เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อหูฟังที่เหมาะสมและถูกใจได้ มาดูกันเลยค่ะ

เราได้รวบรวมเคล็ดลับสำคัญ ๆ ในการเลือกซื้อหูฟังเกมที่คุณไม่ควรพลาดมาฝาก เพื่อให้คุณไว้ใช้ประกอบในการพิจารณาเลือกซื้อหูฟัง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง!

การทำงานของระบบเสียงแบบ Surround โดยทั่วไป จะทำงานด้วยการส่งเสียงออกจากลำโพงหลาย ๆ ตัว จากหลายตำแหน่งที่ติดตั้งมายังทิศของผู้ฟังด้วยเสียงที่ต่างกัน จึงทำให้คุณรู้สึกได้ถึงเสียงจากระยะใกล้, ไกล, ซ้าย, ขวา ที่ส่งเข้ามารอบทิศ ทำให้คุณได้ยินเสียงสมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งเสียงที่ขับออกมาจากแต่ละลำโพงนี้เรียกว่า "Channel (แชนเนล)" กล่าวได้ว่า ยิ่งหูฟังมีจำนวนแชนแนลมากเท่าไร เสียงที่ได้ก็จะให้ความชัดเจนและสมจริงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น


หูฟัง Surround ที่วางขายอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 5.1 ch, 7.1 ch และ 9.1 ch สำหรับการตัดสินใจว่าจะใช้หูฟังประเภทใดนั้น ให้พิจารณาที่จุดประสงค์ของการใช้งานเป็นหลัก เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้กิจกรรมของคุณมีมิติมากขึ้นค่ะ

การดู DVD และเล่นเกมนั้นได้ออกแบบมาให้รองรับระบบเสียง 5.1 ch อยู่แล้ว ดังนั้น คุณสามารถใช้หูฟังประเภท 5.1 ch ดู DVD ได้อย่างสนุกสนาน สำหรับการเล่นเกม เสียง 5.1 ch ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวของศัตรูที่อยู่โดยรอบได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าศัตรูจะอยู่ด้านใด ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างมั่นใจและจดจ่ออยู่กับเกมจนลืมเวลากันเลยทีเดียว แต่เนื่องจากหูฟังประเภทนี้หาซื้อได้ค่อนข้างยาก และปัจจุบันมีหูฟังประเภท 7.1 ch หลายรุ่นที่ราคาไม่สูงเกินไปนัก เหล่าเกมเมอร์จึงนิยมนำมาใช้งานมากกว่าค่ะ

หูฟังประเภท 7.1 จะจะทำให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างที่ดีกว่า โดยเฉพาะการเพิ่มเสียงที่มาจากทางด้านหลัง ทำให้เสียงมีความชัดเจนและละเอียดขึ้น และด้วยเสียงที่มีมิติมากกว่าหูฟังประเภท 5.1 ch จึงเหมาะกับการดูหนังระบบ Blu-ray Disc ที่มีความละเอียดทั้งภาพและเสียงระดับ High Definition ซึ่งเหนือกว่าระบบ DVD ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน อีกทั้งยังรองรับระบบเสียง 3 มิติในเครื่องเล่น PS4 และสามารถรับรู้มิติเสียงจากทุกทิศทาง เพิ่มความรู้สึกเสมือนจริงให้กับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณยิ่งขึ้น

หูฟังประเภท 9.1ch คือ หูฟังระบบเสียงเซอร์ราวด์ที่ดีที่สุด โดยมีการนำระบบเสียง 5.1 ch มาเพิ่มเสียง Surround Back (เสียงจากด้านหลัง) และ Front Hight (เสียงจากทิศสูง) เข้ามาอีก 4 ch ให้เป็นเสียง Surround 9.1ch ให้ความรู้สึกในการรับฟังเสียงแบบ 3 มิติ เสมือนคุณได้นั่งชมภาพยนตร์อยู่ในโรงภาพยนตร์เลยค่ะ

สิ่งที่คุณควรจะพิจารณาอันดับต่อไป คือ การที่จะเลือกหูฟังว่าจะใช้แบบมีสายหรือไร้สาย ซึ่งคุณควรพิจารณาจากการใช้งานเป็นหลักค่ะ

โดยทั่วไปแล้วกล่าวได้ว่า หูฟังแบบมีสายนั้นมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย ซึ่งเกิดจากการส่งสัญญาณผ่านสายที่ใช้เชื่อมต่อสู่หูฟังโดยตรง ทำให้ไม่มีปัญหาเสียงขาดหรือดีเลย์ และยังคงคุณภาพเสียงที่ถูกส่งออกมาไว้ได้ ดังนั้น หูฟังแบบมีสายจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเน้นความต่อเนื่องและคุณภาพของเสียงเป็นพิเศษ


อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยข้อจำกัดเรื่องสายเชื่อมต่อที่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลักอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้พกพาไปใช้งานข้างนอกไม่สะดวก แต่ข้อดีก็คือ ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ตลอด นอกจากนี้ เมื่ออยู่ในห้องส่วนตัวยังสามารถใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เช่น ทีวี, สมาร์ทโฟน, หรือคอมพิวเตอร์ได้ ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการฟังโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตฯ จะหมดด้วยค่ะ

ข้อดีของหูฟังแบบไร้สาย คือ ไม่มีสายเชื่อมต่อให้เกะกะ พกพาง่าย สามารถทำกิจกรรมได้แบบทั้งคนเดียวเป็นส่วนตัว หรือหากต้องการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว ก็สามารถทำการเชื่อมต่อหูฟังหลาย ๆ เครื่องผ่านทางสัญญาณ Wireless ได้


แต่หูฟังแบบไร้สายมักจะพบกับปัญหาเสียงดีเลย์หรือขาดหายในบางครั้ง เนื่องจากสัญญาณหรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์เกิดการขัดข้อง แต่ถ้าหูฟังนั้นใช้ "ระบบไร้สายแบบ Dual-Band" ก็จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ คุณควรเลือกหูฟังที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องและมีความจุแบตเตอรี่สูง เพราะจะช่วยให้คุณใช้งานหูฟังได้นานยิ่งขึ้นค่ะ

ต่อมาคือส่วนของลักษณะที่ครอบหู โดยคุณต้องหาสไตล์การฟังเพลงของคุณ และเลือกชนิดของตัวครอบหูฟังให้เข้ากับคุณที่สุดค่ะ

หูฟังแบบเปิด คือ บริเวณที่ครอบหูฟังด้านนอก (Ear-Cup) จะเปิดเป็นตะแกรงโล่งให้อากาศไหลเข้าออกสะดวก ทำให้ความดันระหว่างหูและตัวกระบังลมลดน้อยลง จึงให้เสียงที่โปร่ง ฟังสบาย และไม่เกิดอาการหูล้าเนื่องจากการฟังเป็นเวลานาน


ในทางกลับกัน ข้อเสียหลัก ๆ ของหูฟังประเภทนี้ คือ คุณภาพของเสียงเบสจะต่ำ และไม่เก็บเสียง จึงทำให้เสียงเล็ดลอดออกมารบกวนคนอื่นได้ จึงไม่เหมาะกับการใช้ฟังในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน แต่ถ้าคุณใช้ฟังในห้องที่บ้านแล้วล่ะก็ ขอแนะนำว่าหูฟังชนิดนี้ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติและฟังสบายที่สุดค่ะ

หูฟังแบบนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยส่วนที่ครอบหูด้านนอก (Ear-Cup) จะปิด ทำให้สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอก ช่วยให้คุณเล่นเกมหรือชมภาพยนตร์ได้โดยไม่มีเสียงจากภายนอกมากวนใจ อีกทั้งยังให้เสียงเบสที่ดีกว่าหูฟังแบบเปิดอีกด้วย


ข้อเสียเพียงเล็กน้อยของหูฟังประเภทนี้ คือ เมื่อใส่ไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการหูล้าได้ ดังนั้น หากคุณชื่นชอบหูฟังประเภทนี้ ควรเลือกหูฟังแบบที่มีเทคโนโลยีช่วยลดอาการหูล้าด้วยจะดียิ่งขึ้น และเนื่องจากเป็นระบบปิดจึงไม่ต้องกังวลว่าเสียงจะเล็ดลอดออกไปรบกวนคนข้างนอกได้ จึงเหมาะกับการพกไปใช้งานนอกสถานที่ด้วยค่ะ

การสวมใส่หูฟังเพื่อดูหนังสักเรื่อง อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสองชั่วโมง และถ้าหากใช้เล่นเกมในวันหยุดแล้วล่ะก็ คุณอาจจะเผลอใส่ทั้งวันโดยไม่รู้ตัว แน่นอนว่าการมีอุปกรณ์เสริมที่ดีจะช่วยลดความเมื่อยล้าจากการสวมหูฟังเป็นเวลานานได้ เรามาดูกันค่ะว่า มีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุณสวมใส่หูฟังได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

การสวมใส่หูฟังเป็นเวลานาน อาจทำให้คุณรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณส่วนหัวและหูมากกว่าที่คิด เนื่องจากน้ำหนักของหูฟังที่กดทับ ดังนั้น แผ่นรองหูที่มีความยืดหยุ่นและสัมผัสเรียบไปกับใบหู จะช่วยทำให้คุณรู้สึกสบายและสวมใส่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของแผ่นรองหูฟัง คือ มีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจไปกันเสียงที่ส่งออกมาทำให้มีผลต่อเสียงเบสต่ำได้


สำหรับการพิจารณาว่าจะเลือกอย่างไรนั้น เนื่องจากส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามความชอบของแต่ละบุคคล หากเป็นไปได้ ควรลองสวมใส่และเปรียบเทียบความรู้สึกด้วยตัวเองก่อนซื้อจะดีที่สุด

แม้ว่าเราจะมีหูฟังที่มีคุณภาพเสียงดีแค่ไหน แต่หากว่าใช้ฟังนาน ๆ แล้วเกิดความรู้สึกปวดเมื่อยไม่สบายหู จนทำให้ต้องหยุดเล่นกลางคันก็คงน่าเสียดายไม่น้อย เราขอแนะนำให้คุณหาหูฟังที่มี Headband (ที่คาดหัว) ซึ่งทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่ม ส่วน Headband ที่มีความยืดหยุ่น จะกระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้สามารถสวมใส่ได้เป็นเวลานาน และช่วยลดอาการเหนื่อยล้าบริเวณศีรษะและใบหูลงได้

หูฟังแบบพับได้ มีทั้งแบบที่สามารถพับเก็บเป็นวงกลมหรือราบแบนไปตามรูปร่างของหูฟัง หูฟังแบบนี้มีข้อดี คือ มีขนาดเล็ก ช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บและพกพาสะดวกมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องการนำหูฟังไปใช้ข้างนอกด้วย ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า หูฟังที่คุณต้องการซื้อสามารถพับเก็บสะดวกหรือไม่ค่ะ

ทางทีมงานได้รวบรวมหูฟังเล่นเกมที่น่าสนใจมาถึง 10 อันดับด้วยกัน เรามาดูกันเลยว่าหูฟังแบบไหนที่เหล่าเกมเมอร์นิยมใช้กันในปีนี้ ไปดูกันเลย!

ใครที่ชอบหูฟังที่ดังกระหึ่ม ต้องจัดหูฟังรุ่นนี้เลยค่ะ ! เนื่องจากมีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 50 mm มั่นใจได้เลยว่าเสียงก้องกังวาลไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ มาพร้อมเทคโนโลยี Cooling Gel เคลือบระหว่างชั้นแผ่นรองหูฟัง ช่วยลดความร้อนจากการใช้งานระยะยาว วัสดุบุหูฟังเป็นเมมโมรี่โฟม (Memory Foam) สวมใส่นุ่มสบาย สามารถปรับให้สอดรับกับขนาดศีรษะได้


ที่สำคัญ ยังมีระบบเสียง THX Spatial Audio ที่สามารถจำลองเสียง 7.1 ch ให้เสียงละเอียดสมจริง ระบบตัดเสียงรบกวนของไมโครโฟนดี ได้ยินเสียงชัดเจน แต่ที่น่าเสียดายคือ ระบบเสียง THX Spatial Audio รองรับได้เฉพาะการเล่นบน PC เท่านั้น ส่วนการเชื่อมต่อบน PS4 จะยังคงเป็นระบบ Stereo ดังนั้น จึงเหมาะกับเกมเมอร์สาย PC มากกว่าค่ะ

สำหรับใครที่มีปัญหาใช้หูฟังไปนาน ๆ แล้วเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ จะทำความสะอาดทีก็แสนยากเย็น ลองหูฟังรุ่นนี้ดูไหมคะ ด้วยตัวที่คาดหัวทำจากผ้า มีความยืดหยุ่นและถอดออกมาทำความสะอาดได้ ช่วยลดปัญหากลิ่นอับต่าง ๆ สามารถใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกล้าหรืออึดอัด มีระบบแสงไฟ Prism RGB ที่มีเฉพาะในหูฟังรุ่นนี้เท่านั้น ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศการเล่นเกมให้กลายเป็นอีกมิติหนึ่งไปเลย!


นอกจากนี้ ยังมีไมโครโฟนที่ตัดเสียงรบกวนได้ดี สามารถระบุตำแหน่งและทิศทางได้สมจริง แม่นยำสูง เหมาะสำหรับประเภทเกมต่อสู้เอาชีวิตรอด ให้คุณรู้สึกเหมือนได้เข้าไปร่วมต่อสู้ ณ ที่แห่งนั้นด้วยจริง ๆ  คุณภาพเกินราคาขนาดนี้ น่าหามาใช้งานสักตัวจริง ๆ ค่ะ

หูฟัง Wireless ตัวใหม่ของ Razer รุ่นนี้ สามารถติดตั้งง่ายเพียงเชื่อมต่อสัญญาณก็ใช้งานได้ทันที ทั้งใน PC และ PS4 มีโครงสร้างหลักเป็นโลหะ ทำให้แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ใช้งานหนักแบบดุดัน ฟองน้ำแบบเมมโมรี่โฟม สวมใส่ได้สบายหู พร้อมปุ่มควบคุมต่าง ๆ ในตัว สามารถปรับแต่งเสียงเปิด-ปิดการใช้งาน Wireless ได้ง่ายเพียงกดปุ่มด้านข้าง ๆ เท่านั้น ใช้งานง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะคะ


อีกทั้งหูฟังนี้ยังสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Wireless ด้วยความถี่ 2.4 GHz การันตีว่าเสียงไม่สะดุด และมีแนวเสียงฟังง่าย อีกทั้งยังช่วยให้สามารถจับทิศทางได้ดี ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ Razer ไม่น้อยเลยค่ะ นับว่าเป็นอีกหนึ่งหูฟัง Wireless ที่พลาดไม่ได้อีกตัวหนึ่งเลยนะคะ

หูฟัง GSP 550 นี้ เป็นหูฟังแบบเปิด มีช่องระบายอากาศบริเวณด้านหลังหูฟัง สามารถระบายอากาศที่ดีทำให้สวมใส่สบาย ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ มาพร้อมกับดีไซน์สไตล์ Robot ดูทันสมัย แถมตัวโครงสร้างยังทำมาจากอะลูมิเนียมให้ความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้ได้นานหลายปี รับรองคุ้มราคา สมชื่อสัญชาติเยอรมันแน่นอนค่ะ


สำหรับคนที่ชื่นชอบหูฟังแบบเปิด และกำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งดี ๆ สักตัว หูฟังตัวนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักที่คุณต้องหามาลองให้ได้เลยนะคะ เพราะหากคุณได้ลองแล้วรับรองต้องเอ่ยคำว่า "ของเค้าดีจริง ๆ" อย่างอดไม่อยู่แน่นอน !

หูฟังรุ่นนี้สามารถเล่นใช้กับ PS4 หรือ PC ก็ได้ มีดีไซน์สวยทันสมัย วัสดุเกรดพรีเมียม โครงสร้างปรับยืด-หดให้เข้ากับศีรษะ ฝาครอบหูฟังสามารถถอดออกเพื่อย้ายไมโครโฟนเองได้ เปิด-ปิดไมโครโฟนเพียงหมุนตัวไมค์ขึ้นลง และใช้งานร่วมกับตัว MixAmp Pro TR (ต้องซื้อแยกต่างหาก) ให้เสียงนุ่มคมชัดในแบบ Astro สามารถปรับเพิ่มหรือลดให้เสียงเกมและเสียงแชทดังจากตัว Mixamp ได้


MixAmp Pro TR สามารถปรับเสียง ช่วยเพิ่มมิติการรับฟัง และสามารถตั้งค่าเสียงต่าง ๆ ในแอปพลิเคชันเพิ่มได้ด้วย และยังมีไมโครโฟนแบบ Noise-Isolating ทำให้ได้ยินเสียงชัดเจน ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินในการเล่นเกมอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นหูฟังคุณภาพดีมากอีกตัวหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ

หูฟังเกมมิ่งไร้สาย เชื่อมต่อแบบ Dual Wireless ความถี่ 2.4Ghz ให้ความเสถียรได้ไกลถึง 12 เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบ 2 ก้อน ทำให้คุณสามารถใช้งานยาวนานถึง 20 ชั่วโมง ที่คาดหูฟังและ Earpad ทำจากผ้า ให้ความนุ่มสบายระบายความร้อนได้ดี สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ด้วย !


ยิ่งไปกว่านั้น ระบบเสียงเซอร์ราวด์ DTS X 7.1 v2.0 ใช้คู่กับตัว Transmitter Base Station เพื่อควบคุมการเปิด-ปิด Wireless และตัวหูฟัง ให้เสียงสมจริงสมราคา พร้อมระบบตัดเสียงไมโครโฟนที่ดีเยี่ยม และดีไซน์ที่เก็บกลับเข้าไปในหูฟังได้เมื่อไม่ใช้งาน ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟัง Wireless อยู่ ตัวนี้ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ

HyperX Cloud Revolver S รุ่นนี้ มาพร้อมกับระบบเสียง Virtual Dolby 7.1 สามารถเปิด-ปิดระบบ เพียงแค่กดปุ่ม ๆ เดียว และการเชื่อมต่อแบบ Plug & Play เพียงแค่เสียบสาย USB ต่อเข้ากับอุปกรณ์ก็สามารถเชื่อมต่อได้เลยโดยไม่ต้องลงไดร์เวอร์หรือซอฟต์แวร์ใด ๆ ให้ยุ่งยากเลยล่ะค่ะ


ส่วนโครงสร้างก็มีน้ำหนักเบา ใช้ฟองน้ำแบบเมมโมรี่โฟมที่เป็นแบบเฉพาะของ HyperX สามารถปรับขยายตามขนาดศีรษะได้ มีการกระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้ช่วยลดอาการเมื่อยล้าเมื่อสวมใส่เป็นเวลานานได้ เหมาะสำหรับเกมเมอร์อย่างแท้จริง

หูฟัง Sony 9.1 ch รุ่นนี้รองรับระบบเสียงได้ทุกรูปแบบ ทั้ง Dolby Digital, DTS, DTS-HD, และ TrueHD  ทั้งยังรองรับระบบใหม่ 4K (Ultra HD) ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้อีกด้วย! ตัวหูฟังเป็นระบบ Wireless ที่เชื่อมต่อด้วยระบบ Dual Band ความถี่ 5GHz ที่ให้ความเสถียร ที่ได้รับประกันว่าไม่ดีเลย์ พร้อมรีโมทในตัวให้คุณเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่าง ๆ ขณะดูหนังหรือเล่นเกมได้สะดวกยิ่งขึ้น


สำหรับคนที่ชื่นชอบคุณภาพเสียงแบบสมจริง คมชัดเหมือนนั่งฟังอยู่ในโรงภาพยนตร์อยู่ละก็ หูฟังตัวนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ และหากคุณยังคงเลือกหูฟังไม่ได้สักทีและไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณมากวนใจ หูฟังที่การันตีด้วยคุณภาพระดับโซนี่ตัวนี้คือ ตัวเลือกที่คุณคู่ควรอย่างยิ่งเลยค่ะ

จุดเด่นที่สุดของ Astro คือ ระบบเสียงที่เยี่ยมยอดไม่เป็นรองใคร ทำให้ได้รับความนิยมเสมอมา หูฟัง A50 เป็นรุ่นล่าสุดระดับ Hight End ของ Astro ที่รวมที่สุดของเทคโนโลยีฝั่ง Astroใส่ไว้ในนี้ ทั้งระบบเสียง Astro Audio V2, 3D Audio, Voice isolating ไว้ในหูฟังตัวนี้


หูฟัง A50 มาพร้อมกับตัว Base station ที่เป็นทั้ง Mixamp และ ที่ชาร์จในตัว เชื่อมต่อด้วยสัญญาณ Wireless ที่ความถี่ 5 GHz เทคโนโลยีใหม่โดย Astro ให้การเชื่อมต่อที่เสถียรที่สุด ไม่ดีเลย์ เหมาะสำหรับเกมเมอร์มืออาชีพอย่างที่สุด !

หูฟังนี้เหมาะกับนักเล่นเกมมืออาชีพหรือเหล่าสตรีมเมอร์ทั้งหลายที่ชื่นชอบการอัดคลิปลง Youtube หรือ Live เพราะให้เสียงคมชัด ไม่มีเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการเข้าไปรบกวนใจ เสียงไมโครโฟนคุณภาพระดับนักข่าวภาคสนามใช้กัน และยังสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายช่องทางทั้ง Bluetooth, Wireless, MicroUSB เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก


ส่วนตัวโครงสร้างภายนอกทำด้วยพลาสติกชั้นดี มาพร้อมกับดีไซน์หรูอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุณเห็นแล้วต้องหลงรัก พร้อมบุด้วยเมมโมรี่โฟมสวมใส่นุ่มสบาย สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังคุณภาพดี พร้อมดีไซ์เท่ ๆ ไว้ใช้งานสักตัว หูฟังตัวนี้รับรองถูกใจคุณอย่างแน่นอน!

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับวิธีการเลือกและอันดับหูฟังเกมที่เราได้เสนอกันไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมายเบสท์ของเรานะคะ อย่างที่เราทราบกันดีว่า คุณภาพของสินค้ามาพร้อมกับราคาที่ควรคู่กันเสมอ ยิ่งหูฟังราคาสูงเท่าไร ย่อมมีฟังก์ชันและคุณภาพที่สูงตามไปด้วย


และนอกจากจะต้องสำรวจลักษณะฟังก์ชันต่าง ๆ ของหูฟังที่คุณต้องการแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์หรือเครื่องเล่นที่คุณใช้อยู่สามารถรองรับระบบเสียงแบบใดได้บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้ว แม้คุณจะซื้อหูฟังที่ดีและแพงที่สุดมาใช้ ก็อาจจะไม่สามารถแสดงศักยภาพสูงสุดของหูฟังออกมาได้ สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกคนได้หูฟังเกมที่มีคุณภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพลิดเพลิดไปกับหูฟังที่เราได้แนะนำไปนะคะ